789BET ฝากครั้งเเรกรับโบนัส 100% > ฝากครั้งที่2 รับโบนัสเพิ่ม 50% > ฝากเงินรับโบนัสสูงสุด 28,888 > โบนัสคืนเงินรายวันสูงสุด 2% 

เกมส์ไพ่

เคล็ดลับการเดิมพันเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค ทำอย่างไรให้แต้มอยู่ที่ 21

แบล็คแจ็คเป็นเกมไพ่คาสิโนที่มีเสน่ห์และความท้าทายมากที่สุดเกมหนึ่ง ทั้งในรูปแบบคาสิโนสดและคาสิโนออนไลน์ เกมนี้ไม่ได้อาศัยเพียงแค่โชคเท่านั้น แต่ยังต้องใช้กลยุทธ์และการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หนึ่งในเป้าหมายหลักของการเล่นแบล็คแจ็คคือการทำให้แต้มรวมของไพ่ในมือคุณเท่ากับ 21 หรือใกล้เคียงกับ 21 โดยไม่ให้เกิน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการเดิมพันเกมไพ่แบล็คแจ็คเพื่อช่วยให้คุณสามารถทำให้แต้มอยู่ที่ 21 ได้มากที่สุดและเพิ่มโอกาสในการชนะ

เกมส์ไพ่

ทำความเข้าใจกับกติกาพื้นฐานของเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค

ก่อนที่เราจะพูดถึงเคล็ดลับการเดิมพัน การเข้าใจในกติกาพื้นฐานของแบล็คแจ็คเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป้าหมายของเกมคือการมีแต้มไพ่ในมือเท่ากับหรือใกล้เคียงกับ 21 มากที่สุด โดยไม่ให้เกิน แต้มของไพ่มีการนับดังนี้:

  • ไพ่ที่มีตัวเลข 2-10 นับตามตัวเลขบนหน้าไพ่
  • ไพ่ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
  • ไพ่ A สามารถมีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ผู้เล่นสามารถเลือก “จั่วไพ่” (Hit) เพื่อรับไพ่เพิ่มเติม หรือเลือก “อยู่” (Stand) เพื่อหยุดและใช้แต้มที่มีอยู่ในการตัดสินกับเจ้ามือ เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่จนกว่าแต้มรวมจะมีค่าอย่างน้อย 17 แต้ม

1. การใช้กลยุทธ์พื้นฐาน (Basic Strategy)

หนึ่งในเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการเล่นแบล็คแจ็คคือการใช้กลยุทธ์พื้นฐาน (Basic Strategy) กลยุทธ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ และระบุว่าการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ใดจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยกลยุทธ์พื้นฐานจะบอกคุณว่าเมื่อใดควรจั่วไพ่ เมื่อใดควรอยู่ หรือเมื่อใดควรเพิ่มเงินเดิมพัน

  • เมื่อไพ่รวมกันเท่ากับ 12-16 แต้ม: หากไพ่ของเจ้ามือมีแต้มอยู่ที่ 2-6 ควรเลือกอยู่ (Stand) เพราะเจ้ามือมีโอกาสที่จะจั่วไพ่เกิน 21 ได้ แต่หากไพ่ของเจ้ามือมีแต้มสูงกว่า 7 ควรจั่วไพ่ (Hit) เพราะโอกาสที่เจ้ามือจะจั่วไพ่และชนะมีมากกว่า
  • เมื่อไพ่ในมือรวมกันเท่ากับ 17 แต้มขึ้นไป: ควรเลือกอยู่ (Stand) ทุกครั้ง เพราะโอกาสที่คุณจะจั่วไพ่และแต้มเกิน 21 มีสูง
  • เมื่อไพ่ในมือรวมกันเท่ากับ 11 หรือต่ำกว่า: ควรจั่วไพ่เพิ่ม (Hit) ทุกครั้ง เพราะโอกาสที่แต้มจะไม่เกิน 21 ยังสูงอยู่

2. การจัดการเงินอย่างมีระบบ (Bankroll Management)

การจัดการเงินที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในทุกเกมคาสิโน และแบล็คแจ็คก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น การตั้งงบประมาณในการเล่นและยึดถืออย่างเคร่งครัดจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณเสียเงินมากเกินไปในเวลาอันสั้น เคล็ดลับในการจัดการเงินมีดังนี้:

  • กำหนดขีดจำกัดในการเล่น: ตัดสินใจล่วงหน้าว่าคุณสามารถเสียเงินได้เท่าไหร่ในการเล่นครั้งนี้ และอย่าลืมที่จะหยุดเล่นเมื่อถึงขีดจำกัดนั้น
  • แบ่งงบประมาณการเล่นเป็นหน่วยย่อย: แบ่งงบประมาณการเล่นของคุณออกเป็นหน่วยย่อยๆ และเดิมพันเพียงแค่ 1 หน่วยต่อรอบ เพื่อให้คุณสามารถเล่นได้หลายรอบและลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมดในครั้งเดียว
  • อย่าพยายามคืนทุนในรอบเดียว: หากคุณเสียเงินในรอบหนึ่ง ไม่ควรพยายามเพิ่มเงินเดิมพันในรอบถัดไปเพื่อคืนทุน วิธีนี้มักจะนำไปสู่การเสียเงินมากขึ้น

3. การอ่านไพ่ของเจ้ามือ (Dealer’s Upcard)

การสังเกตไพ่ที่เปิดอยู่ของเจ้ามือ (Dealer’s Upcard) เป็นเคล็ดลับสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะมันสามารถบอกคุณได้ว่าเจ้ามือมีโอกาสที่จะจั่วไพ่เพิ่มหรือหยุดไพ่ การอ่านไพ่ของเจ้ามือช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น:

  • ไพ่ของเจ้ามืออยู่ระหว่าง 2-6 แต้ม: ไพ่เหล่านี้ถือว่าเป็น “ไพ่เสีย” (Weak Cards) เพราะเจ้ามือมีโอกาสที่จะจั่วไพ่และเกิน 21 แต้ม ดังนั้นคุณควรระมัดระวังในการจั่วไพ่ของตัวเอง
  • ไพ่ของเจ้ามืออยู่ระหว่าง 7-10 แต้ม หรือเป็นไพ่ A: ไพ่เหล่านี้เป็น “ไพ่ดี” (Strong Cards) เพราะเจ้ามือมีโอกาสที่จะจั่วไพ่และแต้มรวมใกล้เคียงกับ 21 คุณจึงควรพิจารณาจั่วไพ่เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ

4. การใช้เทคนิคการนับเกมส์ไพ่ (Card Counting)

แม้ว่าเทคนิคการนับไพ่ (Card Counting) จะไม่สามารถใช้ได้ในคาสิโนออนไลน์ที่มีการสับไพ่อัตโนมัติทุกครั้ง แต่ในคาสิโนแบบดั้งเดิม เทคนิคนี้ยังคงเป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพ เทคนิคการนับไพ่ช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าในไพ่ที่เหลืออยู่มีโอกาสที่จะเป็นไพ่สูง (10, J, Q, K, A) หรือไพ่ต่ำมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถช่วยในการตัดสินใจว่าจะจั่วไพ่หรือไม่

  • การนับแบบ Hi-Lo: เป็นเทคนิคการนับไพ่ที่นิยมมากที่สุด โดยคุณจะกำหนดค่า +1 ให้กับไพ่ 2-6, 0 ให้กับไพ่ 7-9, และ -1 ให้กับไพ่ 10, J, Q, K, A เมื่อรวมค่าเหล่านี้ คุณจะสามารถประเมินได้ว่ามีไพ่สูงหรือต่ำมากกว่าในไพ่ที่เหลืออยู่
เกมส์ไพ่

5. อย่าลืมกฎของการแยกไพ่ (Splitting Pairs)

การแยกไพ่คู่ (Splitting Pairs) เป็นกลยุทธ์ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการชนะของคุณได้อย่างมาก เมื่อคุณได้รับไพ่คู่ที่มีแต้มเท่ากัน (เช่น 8-8 หรือ A-A) คุณสามารถเลือกที่จะแยกไพ่ออกเป็นสองมือและเพิ่มเงินเดิมพันในแต่ละมือ กฎในการแยกไพ่มีดังนี้:

  • แยกไพ่ A-A ทุกครั้ง: การแยกไพ่ A-A ช่วยเพิ่มโอกาสที่คุณจะได้ไพ่ที่มีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 21
  • แยกไพ่ 8-8 ทุกครั้ง: การแยกไพ่ 8-8 ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการมีแต้มรวม 16 ซึ่งเป็นแต้มที่ไม่ดีและมีโอกาสแพ้สูง

6. การใช้ประโยชน์จากโบนัสและโปรโมชั่น

ในคาสิโนออนไลน์ มักจะมีโบนัสและโปรโมชั่นที่สามารถนำมาใช้ในการเพิ่มเงินทุนในการเล่นแบล็คแจ็คได้ เช่น โบนัสฝากเงินครั้งแรก โบนัสคืนเงิน หรือโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาล การใช้โบนัสเหล่านี้อย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณ

7. การเรียนรู้จากประสบการณ์

การเล่นแบล็คแจ็คต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์ คุณควรจดบันทึกผลลัพธ์และการตัดสินใจในแต่ละรอบเพื่อศึกษาว่ากลยุทธ์ไหนที่ได้ผลดีที่สุด การวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการชนะ

8. ควบคุมอารมณ์และการเล่นอย่างมีสติ

แบล็คแจ็คเป็นเกมที่ต้องใช้ทั้งทักษะและสติปัญญา การควบคุมอารมณ์ของคุณให้มั่นคงและไม่ให้ความรู้สึกเข้ามาครอบงำการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรเล่นด้วยสติและไม่วางเดิมพันเกินกว่าที่คุณสามารถจะเสียได้

สรุปบทความส่งท้าย เกมส์ไพ่

การทำให้แต้มอยู่ที่ 21 ในเกมแบล็คแจ็คไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการใช้กลยุทธ์พื้นฐาน การจัดการเงินอย่างมีระบบ การอ่านไพ่ของเจ้ามือ การนับไพ่ และการแยกไพ่คู่ รวมถึงการควบคุมอารมณ์และการเล่นอย่างมีสติ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะได้อย่างมาก อย่าลืมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอยู่เสมอ แล้วคุณจะพบว่าการเล่นเกมส์ไพ่แบล็คแจ็คเว็บไซต์ 789bet เป็นทั้งความสนุกและโอกาสในการทำกำไรที่น่าตื่นเต้น สมัครสมาชิกเลย

เเนะนำเพื่อนรับ 3 ต่อ - 789bet
เเนะนำเพื่อรับโบนัส 3 ต่อ